การวางแผนการเงิน คือ
กระะบวนการในการจัดทำแผนการเงินส่วนบุคคล
เพื่อทำให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายชีวิตตามลำดับความสำคัญที่ต้องการได้ ทั้งนี้การวางแผนการเงินไม่ได้เป็นแผนที่จัดทำเพื่อคนมีเงินเท่านั้น
แต่การวางแผนทางการเงิน คือ แผนการเพื่อให้เรามีเงินใช้จ่ายและมีความสุข
เพียงพอในทุกช่วงวัยไปตลอดชีวิตและเพื่อให้เป็นการวางแผนที่ครอบคลุมทุกช่วงวัยของชีวิต
เรามักจะเริ่มวางแผนจากรากฐานหรือความจำเป็นก่อน
โดยจะเห็นการอธิบายออกมาเป็นภาพที่เราเรียกว่า สามเหลี่ยมทางการเงิน หรือ
ปิรามิดทางการเงิน
เรื่องของการวางแผนการเงินกับ คุณนายตุ๊กติ๊ก จึงจะใช้
ปิรามิดทางการเงิน มาเป็นกรอบในการเล่าเรื่องค่ะ
ปิรามิดทางการเงินประกอบไปด้วย
1.Cash Flow Management
2.Protection
3.saving
4.Investment
5.Tax Planning
6.Wealth Transfer
ในส่วนแรกนี้เราจะเริ่มต้นกันที่ Cash Flow Management เพื่อเป็นการสุขภาหรือไพทางการเงิน ของเราว่ามีความแข็งแรง
เพียงพอตั้งแต่ขั้นเริ่มต้นหรือไม่ เราจะใช้เครื่องมือ 2 ได้แก่
1.งบดุลส่วนบุคคลใช้แสดงสถานะทางการเงินของเราขณะใด ขณะหนึ่ง ดังนั้นในงบดุลส่วนบุคคลจะประกอบด้วย
1.) สินทรัพย์ แบ่งได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่
- สินทรัพย์สภาพคล่อง
แปลงเป็นเงินสดได้คล่องที่สุด
- สินทรัพย์ลงทุน
เป็นทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนเป็นตัวเงิน
- สินทรัพย์ใช้ส่วนตัว
เป็นสินทรัพย์ส่วนตัวที่มีมูลค่า
2.) หนี้สินจะมีทั้งหมด 2 ประเภท ได้แก่
- หนี้สินระยะสั้น
เป็นหนี้สินที่ต้องชำระภายใน 1 ปี
- หนี้ระยะยาว
เป็นหนี้ที่ใช้เวลาผ่อนชำระเกินกว่า 1 ปี
3.) ความมั่งคั่ง ความมั่งคั่งจะคิดจากสินทรัพย์ทั้งหมดลบด้วยหนี้สินทั้งหมด
จะสามารถบอกได้ว่าเรามี
"ความมั่งคั่งสุทธ" เท่าไหร่
- ค่าบวกยิ่งความมั่งคั่งสุทธิมากก็จะยิ่ีงดี
- ถ้าติดลบแสดงว่าเป็นหนี้มากกว่าสินทรัพย์ที่นั่นเอง
2.งบกระแสเงินสดเป็นรายงานที่แสดงรายรับ
รายจ่าย และเงินคงเหลือทำให้เรานำไปใช้ประกอบการทำแผนการเงินได้
1.)กระแสเงินสดรับ จะเป็นเงินที่เราได้รับในช่วงเวลานั้น เช่น รายได้จากการทำงาน
เงินเดือน กำไร ค่าเช่า ค่าล่วงเวลา
2.)กระแสเงินสดจ่าย จะประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่
- กระแสเงินสดจ่ายเพื่อการออมและลงทุน
- กระแสเงินสดจ่ายคงที่
เป็นรายจ่ายที่ต้องจ่ายเท่าๆกันในทุกๆช่วง เช่น ค่างวดบ้าน ค่างวดรถ
ประกันสังคม
- กระแสเงินสดจ่ายผันแปร
เป็นรายจ่ายที่ไม่เท่ากันในแต่ละช่วงเวลา เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง
3.กระแสเงินสดสุทธิ
มาจากการนำกระแสเงินสดจ่ายรวมทั้งหมดมาลบจากกระแสเงินสดรับ
สุขภาพทางการเงินที่ดี
1.มีสภาพคล่องเพียงพอ
หรือมีเงินสำรองฉุกเฉิน 3 - 6 เดือน
2.หนี้สินไม่มากจนเกินไป
เกณฑ์ทั่วไปไม่ควรเกิน 40% ของรายรับต่อเดือน
ซึ่งเกณฑ์นี้เป็นเกณฑ์คร่าวๆ ที่สถานบันการเงินใช้พิจารณาสินเชื่อด้วย
3.ออมและลงทุนเหมาะสม
- ออมและลงทุนที่เหมาะสม
ไม่ควรต่ำกว่า 10%
ของรายได้ (ออมก่อนใช้)
- สินทรัพย์ลงทุนที่ดีไม่ควรต่ำกว่า
50%
ของความมั่งคั่งสุทธิ
4.มีรายได้มากกว่า
1 ช่องทางจะเยี่ยมมากๆ