Divergence บอกอะไรกันแน่?

อ่าน 215


ฉบับย่อ

การเกิด Divergence หมายความว่า ราคาหุ้นแค่หมดแรง ไม่ใช่จะเปลี่ยนทิศทาง สัญญาณอื่นจะมายืนยันการเปลี่ยนทิศภายหลัง สิ่งที่อธิบายอยู่นี้ต้องการให้เป็นข้อมูลเพิ่มเติมที่จะใช้ในการตัดสินใจเพื่อเข้าออเดอร์นั่นเอง เพื่อสร้างความมั่นใจมากขึ้น แต่ไม่ใช่ตัวตัดสินใจแรกที่จะใช้ในการเข้าออเดอร์


Divergence บอกอะไรกันแน่?


Divergence ในทาง Technical หมายถึง การที่กราฟราคากับ Indicator ขยับในทิศทางที่แตกต่างกัน ไม่สอดคล้องกัน
โดยปกติ Indicator ที่ใช้ดูสัญญาณ Divergence จะเป็นเครื่องมือประเภท Oscillator เช่น RSI, ROC (Rate of Change), MACD, Stochastic หรือ MACD Oscillator ซึ่งเครื่องมือพวกนี้ จะใช้แสดงพลังของราคา หรือ Momentum ของราคา หรือ การเหวี่ยงของราคาในสภาพปกติ ถ้าราคาหุ้นวิ่งขึ้น Oscillator ก็ควรแสดงผล วิ่งขึ้นด้วย เป็นการแสดง Momentum ของราคาที่เพิ่มมากขึ้น ถ้าราคาถดถอยลง Oscillator ก็ควรที่จะลดถอยลง แสดง Momentum ของราคาที่ลดลง ซึ่งเป็นการเคลื่อนที่ของราคา กับ Oscillator ที่สอดคล้องกัน เขาเรียกว่ามัน “Agree” กัน



ถ้าราคาหุ้นกับ Oscillator มันเกิด “Disagree” กันขึ้นมาล่ะ  คือ ราคาวิ่งขึ้น New High แต่ Oscillator กลับขึ้นนิดเดียว หรือ ราคาลง New Low แต่ Oscillator กลับถอยลงนิดเดียว เขาจึงเรียกรวมอาการพวกนี้ว่า Divergence 

Divergence ถ้าเกิดขึ้นแล้ว มันหมายถึงอะไร ?
ถ้าเห็น Divergence แปลว่า ราคามันจะกลับตัว ?


Divergence มันแสดงกำลังของการเคลื่อนที่ของราคาที่ลดน้อยถอยลง

คือราคาวิ่งขึ้น New High แล้วเกิด Divergence Oscillator

ก็แปลว่า การที่ราคาเคลื่อนที่ New High ขึ้นไปได้นั้น พลังของราคานั้นมันลดลงกว่าการวิ่งขึ้นครั้งก่อน เป็นไปได้ที่ราคาหุ้นจะถดถอยลงมาหลังจากวิ่งขึ้นจบแล้ว หรืออาจจะพักตัวออกข้างก็ได้ ดังนั้น การเกิด Divergence ไม่ได้หมายความว่า ราคาหุ้นจะเปลี่ยนทิศทางจากขาขึ้นมาเป็นขาลง 


Divergence ถ้าเกิดขึ้นแล้ว มันหมายถึงอะไร ??

การเกิด Divergence หมายความว่า ราคาหุ้นแค่หมดแรง ไม่ใช่จะเปลี่ยนทิศทาง สัญญาณอื่นจะมายืนยันการเปลี่ยนทิศภายหลัง สิ่งที่อธิบายอยู่นี้ต้องการให้เป็นข้อมูลเพิ่มเติมที่จะใช้ในการตัดสินใจเพื่อเข้าออเดอร์นั่นเอง เพื่อสร้างความมั่นใจมากขึ้น แต่ไม่ใช่ตัวตัดสินใจแรกที่จะใช้ในการเข้าออเดอร์


Regular Divergence

Regular Divergence   เป็นการเกิด Divergence ในขณะที่ราคากำลังวิ่งเป็น Trend มีทิศทางชัดเจน ในขาขึ้น หรือ ในขาลง แล้ว แสดงอาการอ่อนแรง ออกมาเป็น Divergence Signal  ซึ่งมีการจัดระดับความแรงไว้ 3 ระดับ คือ Strong , Medium และ Weak ในระดับ Strong และ Medium มีโอกาสเกิดการกลับตัวของราคาได้ แต่ Weak จะไม่กลับตัว แต่จะแค่ พักตัวออกข้าง เท่านั้น


ตัวอย่าง Strong Bullish Divergence

Price = Lower Lows
Indicator = Highs Lows
ผลที่เกิด ให้เรามองว่ากราฟเริ่มหมดแรงที่จะลงต่อแล้ว



ตัวอย่าง Strong Bearish Divergence

Price = Higher Highs
Indicator = Lower High
ผลที่เกิด ให้เรามองว่ากราฟเริ่มหมดแรงที่จะขึ้นต่อแล้ว


Divergence เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ไม่จำเป็นจะต้องกลับตัวทุกครั้ง ไม่ใช่แค่เห็นราคาทำอาการอ่อนแรง เห็น Indicator Divergence ก็ไป ทึกทักว่า ราคาจะกลับตัว. ... เพราะ ที่จริงแล้ว Divergence signal บอกเราเพียงแค่ ราคาที่วิ่งมีแนวโน้มในขณะนั้น อ่อนแรงแล้ว เท่านั้นเอง

ต้องสังเกตดูรายละเอียดปลีกย่อย ประกอบกับ Price Action , Volume และเส้นแนวรับแนวต้าน เส้น Trend line อีกหลายอย่าง         

การมีความเชื่อผิดๆว่า Divergence เกิดแล้ว ราคาต้องกลับตัว หรือ เกิด Hidden divergence แล้วราคาต้อง break ออกจากกรอบ sideway ..ทำให้มุมมองต่อกราฟผิดเพี้ยนไป วางแผนเทรดผิด ... และเสียหายในที่สุด ...


สิ่งที่ต้องใช้ร่วมในการตัดสินใจเมื่อเกิด Divergence

1. แนวรับ-แนวต้าน

2. รูปแบบแท่งเทียน Price action

3. Indicator ต่างๆ


ราคาอ่อนแรง    ฟอเร็กซ์    FOREX    Divergence   
อ้างอิง