ข้อมูลทาง Fundamental
1.สถานการณ์ในตลาด:
2.ความสัมพันธ์กับอัตราดอกเบี้ย:
อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ (ซึ่งไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย) ส่งผลบวกต่อราคาทองคำในระยะสั้น
แต่การคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยน้อยกว่าคาดในปี 2025 อาจจำกัดการปรับตัวขึ้นของทองคำในระยะยาว
ข้อมูลทาง Technical
1.แนวโน้มในปัจจุบัน:
ราคาทองคำฟื้นตัวจากแนวรับที่ $2,599 และสามารถปิดเหนือ EMA 50 ($2,616) ซึ่งเป็นสัญญาณบวก
แนวต้านสำคัญถัดไปคือ $2,636 และ $2,651 หากราคาสามารถทะลุได้ อาจเห็นแรงซื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
2.ตัวชี้วัด:
RSI อยู่ที่ 62.86 ชี้ให้เห็นว่าโมเมนตัมยังอยู่ในฝั่งซื้อ แต่ยังไม่ถึงระดับ Overbought (เหนือ 70)
เส้นแนวโน้มขาลง (Downtrend Line) อาจเป็นอุปสรรคสำคัญ หากราคาทองคำไม่สามารถทะลุแนวต้านนี้ได้
แนวรับ-แนวต้านสำคัญ:
แนวรับ: $2,616 และ $2,599
แนวต้าน: $2,636 และ $2,651
3.แผนการเทรด (Trading Plan)
รอราคาย่อตัวที่โซน $2,616 (แนวรับ + EMA 50) เพื่อเข้า Buy
ตั้งเป้ากำไรไว้ที่แนวต้าน $2,636 และ $2,651
ใช้ Stop Loss ที่ต่ำกว่า $2,599 เพื่อจัดการความเสี่ยง
หากราคาปิดต่ำกว่า $2,616 อาจพิจารณาเปิดสถานะ Sell
ตั้งเป้ากำไรไว้ที่ $2,599 และหากหลุดต่ำกว่านี้ อาจเห็นราคาไหลลงต่อเนื่อง
บทสรุป
จากข้อมูล Fundamental และ Technical:
ตลาดทองคำได้รับแรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลง แต่ต้องจับตาความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นจากการคาดการณ์ลดดอกเบี้ยของเฟดที่น้อยกว่าคาด
การฟื้นตัวของราคาทองคำอยู่ในช่วงสำคัญ หากทะลุ $2,636 ได้ มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ แต่หากหลุดต่ำกว่า $2,616 อาจเกิดแรงขายเพิ่ม
แผนการเทรดควรคำนึงถึงทั้งสองปัจจัยเพื่อบริหารความเสี่ยงให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตลาดในปัจจุบัน.