ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis)
ราคาทองคำปิดร่วงต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (7 เม.ย.) จากแรงเทขายของนักลงทุนที่ต้องการถือ สินทรัพย์ปลอดภัยในรูปแบบสกุลเงิน โดยเฉพาะดอลลาร์สหรัฐ ???????? ซึ่งแข็งค่าขึ้น +0.24% แตะระดับ 103.267 ทำให้ทองคำซึ่งมีราคากำหนดเป็นดอลลาร์นั้นดู "แพง" ขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น ส่งผลให้ความน่าสนใจลดลง
Tradu.com รายงานว่านักลงทุนยังเข้าซื้อ ฟรังก์สวิส (CHF) และ เยนญี่ปุ่น (JPY) ท่ามกลางความเสี่ยงของเศรษฐกิจถดถอยที่เริ่มก่อตัว
- Goldman Sachs มองว่ามีโอกาส 45% ที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะถดถอยใน 12 เดือนข้างหน้า
- JPMorgan ประเมินสูงถึง 60% สำหรับเศรษฐกิจโลกและสหรัฐฯ
นักลงทุนรอจับตา:
- ดัชนี CPI / PPI เดือนมี.ค.
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (U. of Michigan)
- จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
- และคำแถลงของ เจ้าหน้าที่เฟด
ปัจจัยเหล่านี้อาจส่งผลแรงต่อความคาดหวังทิศทางดอกเบี้ย และทำให้ตลาดทองคำผันผวนต่อได้อีก
การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis – TF 1H)
- ราคาทองคำยังคงอยู่ในแนวโน้มขาลงระยะสั้นภายใน Descending Channel
- แนวต้านสำคัญ:
- 3,028 (EMA50 และแนวต้านเดิม)
- 3,079 และ 3,132 (แนว Supply zone)
- แนวรับสำคัญ:
- 2,954 (แนวรับหลักล่าสุด)
- RSI อยู่ที่ 45.71 – ฟื้นตัวจากโซน Oversold บ่งชี้การเด้งระยะสั้น แต่ยังไม่มีโมเมนตัมชัดเจน
แผนเทรดแนะนำ
แนวทาง 1: เทรดตามเทรนด์ (Sell the Rally)
- รอราคา กลับขึ้นทดสอบแนวต้าน 3,028 – 3,035 แล้วมีแท่งกลับตัว
- SL: เหนือ 3,050
- TP: 2,970 / 2,954 / 2,920
แนวทาง 2: สวนเทรนด์เก็บรอบสั้น (Buy สั้น ๆ)
- เข้าที่บริเวณแนวรับ 2,954 หากมีแท่งกลับตัว
- SL: 2,945
- TP: 2,997 / 3,028
สรุป: ขณะนี้ราคาทองคำถูกกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า และความกลัวเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก แม้เทคนิคอลจะมีการเด้งขึ้นบ้าง แต่ภาพรวมยังเป็นขาลง การเทรดฝั่ง Sell จึงยังได้เปรียบกว่าจนกว่าจะเบรกแนวต้านสำคัญได้