สรุปภาพรวมตลาดทองคำและการวิเคราะห์ทางเทคนิค (30 มิถุนายน 2567)
ราคาทองคำในช่วงนี้ยังคงเคลื่อนไหวภายใต้แรงกดดันจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงอยู่ ช่วยพยุงความต้องการในทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาทองคำ
1. ทิศทางดอกเบี้ยของเฟด:
ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดอาจคงดอกเบี้ยในระดับสูงต่อเนื่อง ซึ่งกดดันราคาทองคำ เนื่องจากทำให้เงินไหลไปยังสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทน เช่น พันธบัตร มากกว่าทองคำที่ไม่มีดอกเบี้ย
2. ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ:
หากข้อมูลเศรษฐกิจออกมา "แข็งแกร่ง" จะเป็นแรงหนุนให้เฟดยังคงนโยบายเข้มงวด แต่หากตัวเลขอ่อนแอ อาจกระตุ้นการคาดการณ์ถึงการลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น ซึ่งเป็นผลบวกต่อทองคำ
3. สถานการณ์โลก:
ความตึงเครียดในตะวันออกกลางและยุโรปยังคงดำเนินอยู่ หากมีการปะทะหรือขยายวง อาจส่งผลให้ทองคำปรับขึ้นในฐานะ Safe Haven
ข่าวสำคัญวันนี้ (30 มิ.ย. 2567)
- ดัชนี Chicago PMI: ตัวชี้วัดกิจกรรมภาคการผลิต หากออกมาสูงเกินคาด จะเป็นลบต่อทอง
- Pending Home Sales: ตัวชี้วัดสุขภาพตลาดอสังหา หากต่ำกว่าคาด อาจสะท้อนความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลง และหนุนทองคำทางอ้อม
คำแนะนำ: นักลงทุนควรจับตาตัวเลขจริงเทียบกับคาดการณ์เพื่อประเมินทิศทางดอกเบี้ยและผลกระทบต่อราคาทอง
การวิเคราะห์ทางเทคนิค (XAU/USD – 1H)
แนวโน้มหลัก
ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบขาลง (Descending Channel) โดยมีจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่ลดลงต่อเนื่อง แสดงถึงแรงขายยังมีอิทธิพลหลัก
แนวต้าน (Resistance)
- แนวต้านใกล้เคียง: $3,295 – $3,309
- แนวต้านสำคัญ: EMA50 ($3,297.57) และเส้นบนของ Channel หากทะลุได้ อาจเป็นจุดเปลี่ยนของแนวโน้มระยะสั้น
แนวรับ (Support)
- แนวรับแรก: $3,255.65 (จุดต่ำสุดล่าสุด)
- แนวรับถัดไป: กรอบล่างของ Channel หากหลุดต่ำกว่านี้ ระวังแรงขายต่อเนื่อง
สัญญาณจาก RSI
- RSI ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 46.59
- ดีดตัวจากเขต Oversold (ต่ำกว่า 30) บ่งชี้ถึงโอกาสรีบาวด์ระยะสั้น แต่ยังต่ำกว่า 50 จึงยังไม่ใช่สัญญาณกลับตัวที่ชัดเจน
แนวทางวางแผนเทรด
- หาจังหวะขายเมื่อราคาดีดกลับ: หากราคาปรับขึ้นไม่สามารถทะลุแนวต้านได้ ให้พิจารณาขายบริเวณ $3,295–$3,309
- รอซื้อเมื่อมีสัญญาณกลับตัวชัดเจน: โดยเฉพาะหากราคาทะลุ EMA50 และกรอบบนของ Channel ได้
- กรณีหลุดแนวรับ $3,255: อาจเกิดการเร่งขายและลงทดสอบแนวรับถัดไป ควรเฝ้าระวังและตั้งจุดตัดขาดทุนอย่างรอบคอบ
สรุปภาพรวม:
แม้ราคาทองคำจะมีแรงดีดกลับในระยะสั้น แต่แนวโน้มหลักยังคงเป็นขาลง นักลงทุนควรเน้นกลยุทธ์เทรดตามเทรนด์ โดยใช้ข่าวเศรษฐกิจสหรัฐฯ และระดับแนวรับแนวต้านทางเทคนิคเป็นเครื่องมือประกอบการตัดสินใจ
หมายเหตุ: การวิเคราะห์นี้เป็นเพียงมุมมองจากข้อมูลปัจจุบัน ไม่ใช่คำแนะนำด้านการลงทุน โปรดพิจารณาความเสี่ยงก่อนตัดสินใจเทรด