ประเด็นที่น่าสนใจ คือ ทำไมหุ้นไทยจะเกิด Window Dressing
คำตอบคือ มีโอกาสสูงมาก จากเหตุผล 4 ข้อด้วยกัน คือ
1. SET50 รับปัจจัยลบไปมากแล้ว
โดย YTD ของปัจจุบันอยู่ที่ +2.1% ซึ่งได้รับข่าวร้ายไปมากแล้วทั้งนโยบายการเงินของเฟด การระบาดไวรัส สงครามรัสเซีย และความผันผวนของรัฐบาลจีนที่เข้มงวดกดดัน Sentiment หุ้นในแถบเอเชีย
2. หุ้นใหญ่หลายตัวไม่ได้ขยับไปไหน และปิดใกล้เคียงไตรมาส 4 ปี 2564
เท่ากับว่าแรงซื้อในหุ้นเหล่านี้มีเพียงเล็กน้อย สามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยของกองทุนให้เป็นบวกได้
3. ผลประกอบการไตรมาส 1 ของหลายบริษัทจะออกมาดี เช่น
พลังงาน ธนาคารพาณิชย์ ค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ อาหารเครื่องดื่ม ท่องเที่ยว และบันเทิง
4. ที่ผ่านมากองทุนไทยขายหุ้นเยอะมาก ทำให้มีสภาพคล่องส่วนเกินสูง
จากข้อมูลจะเห็นว่า YTD ของกองทุนขายสุทธิอยู่มากถึง 7.1 หมื่นล้านบาท ... ขายใน 3 เดือน
ซึ่งถ้าดูข้อมูลในปี 2564 จะเห็นว่ากองทุนขายทั้งปีจะสูงถึง 7.7 หมื่นล้านบาท ...
ขาย 3 เดือนของปี 2565 เท่ากับขายทั้งปีของปี 2564 เลยทีเดียว
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์หยวนต้า มีมุมมองว่าหุ้นไทยอาจจะเกิด Window Dressing ในช่วงไตรมาส 1 ของปีนี้ และตอนนี้ก็เหลือเวลาอีกราวๆ 10 วันเท่านั้นก็จะสิ้นไตรมาสนี้แล้ว คิดว่ากองทุนไทยน่าจะกลับมาซื้อหุ้น
คำถามต่อมา คือ หุ้นประเภทไหนที่จะตกเป็นเป้าของการทำ Window Dressing ของกองทุน
มี 3 ข้อ ที่ใช้คัดเลือกประกอบไปด้วย
1. หุ้นขนาดใหญ่ที่มี Market Cap สูงเกิน 1 แสนล้านบาท
2. ราคาหุ้นไม่เคลื่อนไหวมาก หรือใกล้เคียงกับราคาปิดช่วงไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว ทำให้ง่ายต่อการทำให้ผลตอบแทนเป็นบวก
3. หุ้นที่ราคาทรุดตัวลงไปมาก
ดังนั้น ทางบทวิเคราะห์ได้คัดเลือกที่น่าสนใจประกอบไปด้วย PTT, AOT, EA, CPN, GPSC, DTAC, TRUE และ TTB