จับตาทองคำ แนวต้านแข็งแกร่ง vs. แรงกดดันจากดอลลาร์ เทรดเดอร์ควรวางแผนอย่างไร?

อ่าน 401


ฉบับย่อ

แนวโน้มทางเทคนิคยังคงเป็น ขาขึ้น หากราคายังยืนเหนือ EMA 50 และแนวรับสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานกดดันราคาทองคำจาก ดอลลาร์แข็งค่า แต่ยังต้องจับตาความไม่แน่นอนจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ กลยุทธ์แนะนำ: Buy เมื่อราคาทะลุแนวต้าน หรือรอ Buy ที่แนวรับสำคัญ โดยใช้ Stop Loss คุมความเสี่ยง


วิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ (XAU/USD) โดยผสานปัจจัยทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐาน


ปัจจัยทางเทคนิค


1. แนวต้านหลัก:

   - ระดับ $2,942 - $2,945 เป็นแนวต้านสำคัญที่ราคากำลังทดสอบ  

   - หากราคาสามารถทะลุขึ้นไปได้ จะมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปทดสอบระดับ $2,960+ 

2. แนวรับสำคัญ: 

   - ระดับ $2,919 เป็นแนวรับแรก  

   - ระดับ $2,894 เป็นแนวรับถัดไป ซึ่งเป็นจุดที่ราคามีการเด้งกลับก่อนหน้านี้  

   - หากราคาหลุดแนวรับ $2,878 มีโอกาสที่ราคาจะอ่อนตัวลงต่อ  

3. EMA 50 (เส้นสีน้ำเงิน):  

   - ราคายังคงเคลื่อนที่เหนือเส้น EMA 50 ซึ่งบ่งบอกว่าโมเมนตัมยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น  

   - แต่หากราคาหลุดต่ำกว่า EMA 50 อาจมีแรงขายเพิ่มขึ้น  

4. RSI Indicator:  

   - ค่า RSI 57.71 ยังอยู่ในโซนกลาง (50-60)  

   - หาก RSI ขึ้นเกิน 70 อาจเข้าสู่โซน Overbought และมีโอกาสเกิดแรงขายทำกำไร  

   - หาก RSI ลดลงต่ำกว่า 50 อาจเป็นสัญญาณการอ่อนตัวของแนวโน้มขาขึ้น  

ปัจจัยทางพื้นฐาน (Fundamental Analysis)

แรงกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่า  

- ดัชนีดอลลาร์ (DXY) แข็งค่าขึ้น 0.11% แตะที่ 107.173  

- การแข็งค่าของดอลลาร์ทำให้ราคาทองคำแพงขึ้นในสายตานักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น ส่งผลกดดันต่อราคาทองคำ  

ความไม่แน่นอนจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ  

- ปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมประกาศ ภาษีนำเข้ารถยนต์ 25%*ในวันที่ 2 เม.ย.  

- การขึ้นภาษีอาจส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมทั่วโลก โดยเฉพาะ ญี่ปุ่น เยอรมนี และเกาหลีใต้  

- นักลงทุนยังจับตานโยบายภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมที่ประกาศเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งอาจส่งผลต่อเงินเฟ้อ  

ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยังกังวลเรื่องเงินเฟ้อ  

- รายงานการประชุมเฟดระบุว่า กรรมการเฟดวิตกเรื่องเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง  

- นโยบายภาษีของรัฐบาลสหรัฐฯ อาจส่งผลให้เฟดต้องปรับนโยบายการเงินเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ  

ผลกระทบต่อตลาดทองคำ  

- หากดอลลาร์แข็งค่าต่อไป ราคาทองคำอาจเผชิญแรงกดดัน  

- แต่หากตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับมาตรการภาษี อาจทำให้ทองคำกลับมาเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้ง  

กลยุทธ์การเทรด

กรณีราคาทะลุแนวต้าน $2,942 - $2,945

   - หากราคาทะลุขึ้นและปิดแท่งเทียนเหนือระดับแนวต้าน  

   - สามารถเข้า Buy เป้าหมายแรกที่ $2,960 - $2,970  

   - ตั้ง Stop Loss ใต้แนวต้านเดิมที่ $2,935 

กรณีราคาย่อลงมาแนวรับ  

   - หากราคาลงมาที่ $2,919 - $2,894 แล้วมีสัญญาณกลับตัว เช่นแท่งเทียนกลับตัวหรือ RSI เริ่มเด้ง  

   - สามารถเข้า Buy ตั้งStop Loss ใต้ $2,878  

กรณีราคาหลุดแนวรับ $2,878  

   - หากราคาหลุดต่ำกว่าแนวนี้ อาจพิจารณา Sell ตามแนวโน้มขาลง  

   - เป้าหมายการลงต่อที่ $2,860 หรือ $2,850  

จับตาดัชนีดอลลาร์ (DXY) และข่าวมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาทองคำในระยะสั้น  

สรุป:  

- แนวโน้มทางเทคนิคยังคงเป็น ขาขึ้น หากราคายังยืนเหนือ EMA 50 และแนวรับสำคัญ  

- ปัจจัยพื้นฐานกดดันราคาทองคำจาก ดอลลาร์แข็งค่า แต่ยังต้องจับตาความไม่แน่นอนจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ  

- กลยุทธ์แนะนำ: Buy เมื่อราคาทะลุแนวต้าน หรือรอ Buy ที่แนวรับสำคัญ โดยใช้ Stop Loss คุมความเสี่ยง  

ไอเดียเทรดทอง    FOREX    มือใหม่หัดเทรด    ราคาทองคำ   
อ้างอิง