บทวิเคราะห์ทองคำ: รวมปัจจัยทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐาน

ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis)

รายงานล่าสุดจาก สภาทองคำโลก (World Gold Council: WGC) ระบุว่าแนวโน้มความต้องการทองคำทั่วโลกในปี 67 ทำสถิติสูงสุดใหม่ ด้วยปริมาณการซื้อขายทองคำ 4,974 ตัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์  

1. แรงขับเคลื่อนหลักของตลาดทองคำ

   - การเข้าซื้อของธนาคารกลาง: มีปริมาณซื้อทองคำสูงถึง 1,045 ตัน โดยเฉพาะไตรมาสที่ 4 มีการเข้าซื้อเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 333 ตัน

   - การลงทุนในทองคำเพิ่มขึ้น 25%: ปริมาณความต้องการทองคำเพื่อการลงทุนทั่วโลกอยู่ที่ 1,180 ตัน สูงสุดในรอบ 4 ปี  

   - ETF ทองคำกลับมาเป็นที่นิยม: กองทุน ETF ทองคำทั่วโลกเพิ่มปริมาณทองคำ 19 ตัน ในไตรมาสที่ 4 ซึ่งเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกันที่เกิดกระแสเงินไหลเข้า  

   - ความต้องการทองคำแท่งและเหรียญทองคำในไทยเพิ่มขึ้น 17%: อยู่ที่ 39.8 ตัน สูงเป็นอันดับ 7 ของโลก  

2. ผลกระทบจากราคาทองคำที่สูงขึ้น

   - ราคาทองคำทำ สถิติสูงสุดใหม่ถึง 40 ครั้ง ในปี 67  

   - แม้ราคาทองคำที่สูงขึ้นจะกดดันภาคทองคำเครื่องประดับ (ทั่วโลกลดลง 11%) แต่ในประเทศไทยความต้องการลดลงเพียง 2%  

   - การใช้ทองคำในภาคเทคโนโลยีเติบโต 7% อยู่ที่ 326 ตัน โดยได้รับแรงหนุนจาก AI และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์  

3. แนวโน้มในปี 68

   - ธนาคารกลางยังคงเป็นปัจจัยหลัก ที่ผลักดันตลาดทองคำ  

   - ETF และนักลงทุนอาจมีบทบาทมากขึ้น หากธนาคารกลางหลายแห่งลดอัตราดอกเบี้ย  

   - ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง (เช่น การเลือกตั้งสหรัฐ) อาจกระตุ้นให้ทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย  

ปัจจัยทางเทคนิค (Technical Analysis)

แนวโน้มหลัก

- ทองคำยังคงอยู่ใน แนวโน้มขาขึ้น แต่เริ่มมีแรงขายกดดันหลังราคาทำจุดสูงสุดใหม่  

- ราคาอยู่เหนือ EMA 50 (2,883 USD) ซึ่งบ่งบอกถึงโมเมนตัมขาขึ้นที่ยังแข็งแกร่ง  

- RSI (14) อยู่ที่ 45.29 บ่งชี้ว่าราคาปรับตัวลงมาจากภาวะ Overbought และกำลังเข้าสู่ภาวะกลาง  

แนวรับ-แนวต้านสำคัญ

- แนวต้านหลัก: 2,936 - 2,942 USD (หากราคาทะลุ อาจไปต่อถึง 2,960 USD)  

- แนวรับแรก: 2,882 USD (แนวรับสำคัญที่ราคาอาจดีดตัวขึ้น)  

- แนวรับถัดไป: 2,833 USD (หากราคาหลุด อาจเข้าสู่ขาลงระยะสั้น)  

กลยุทธ์การเทรด

1. กรณีราคายืนเหนือ 2,882 USD

   - เปิด Buy เมื่อราคามีสัญญาณดีดตัว เป้าหมาย 2,920 - 2,936 USD  

   - Stop Loss ที่ 2,870 USD  

2. กรณีราคาหลุด 2,882 USD  

   - เปิด Sell เป้าหมายที่ 2,833 USD  

   - Stop Loss ที่ 2,900 USD  

3. หากราคาทะลุ 2,936 USD 

   - Follow Buy เป้าหมายที่ 2,950 - 2,960 USD  

   - Stop Loss ที่ 2,920 USD  

สรุปภาพรวม

- แนวโน้มทองคำยังเป็นขาขึ้น ได้รับแรงหนุนจากการเข้าซื้อของธนาคารกลางและการลงทุนใน ETF  

- ประเทศไทยมีความต้องการทองคำสูงขึ้น สะท้อนความนิยมในทองคำแท่งและเหรียญทองคำ  

- กลยุทธ์เทรด มุ่งเน้นที่แนวรับ 2,882 USD และแนวต้าน 2,936 USD  

 #GoldAnalysis #XAUUSD #Forex #ลงทุนทอง #วิเคราะห์กราฟ #เทรดเดอร์