จากกราฟที่ให้มา เราสามารถวิเคราะห์ทางเทคนิคและวางแผนการเทรดได้ดังนี้:
การวิเคราะห์ทางเทคนิค:
1. แนวต้านที่สำคัญ (Resistance):
- ระดับแนวต้านที่ 2,724 เป็นโซนที่ราคาทดสอบหลายครั้งและยังไม่สามารถทะลุได้
- หากราคาสามารถทะลุ 2,724 ได้ อาจมีโอกาสไปทดสอบระดับที่สูงขึ้น
2. แนวรับที่สำคัญ (Support):
- ระดับแนวรับที่ 2,683 และ 2,657 เป็นพื้นที่สำคัญที่ราคายังไม่หลุดลงไป
- หากราคาหลุด 2,657 อาจเป็นสัญญาณของแรงขายที่เพิ่มขึ้น โดยมีโอกาสลงไปยังระดับ 2,603
3. EMA 50 (Exponential Moving Average):
- EMA 50 อยู่ที่ประมาณ 2,683 ทำหน้าที่เป็นแนวรับแบบไดนามิก หากราคายังเคลื่อนที่เหนือ EMA แสดงถึงแนวโน้มขาขึ้นในระยะกลาง
4. RSI (Relative Strength Index):
- RSI อยู่ที่ประมาณ 63.72 ซึ่งยังไม่เข้าสู่เขต Overbought (>70) แต่ยังคงมีโมเมนตัมขาขึ้นในระดับปานกลาง
5. รูปแบบกราฟ (Chart Pattern):
- มีการเคลื่อนไหวในลักษณะ Channel ขาขึ้น (Ascending Channel) โดยราคากำลังพักตัวที่กรอบล่างของ Channel
แผนการเทรด:
1. กลยุทธ์ Buy (Long):
- หากราคายังคงเคลื่อนไหวเหนือ 2,683 และเกิดสัญญาณกลับตัว (Bullish Signal) เช่นแท่งเทียนกลับตัวหรือ RSI ตัดขึ้น สามารถพิจารณา Buy ที่ระดับนี้ โดยตั้งเป้าหมายที่ 2,724 และตั้ง Stop Loss ที่ 2,657
2. กลยุทธ์ Sell (Short):
- หากราคาหลุดแนวรับ 2,657 พร้อมกับ RSI ลดต่ำลง สามารถพิจารณา Sell โดยตั้งเป้าหมายแรกที่ 2,603 และตั้ง Stop Loss เหนือ 2,683
3. Breakout Strategy:
- หากราคาทะลุ 2,724 พร้อมปริมาณการซื้อขาย (Volume) ที่เพิ่มขึ้น สามารถพิจารณา Buy โดยตั้งเป้าหมายถัดไปที่ระดับ 2,760 และตั้ง Stop Loss ใต้ระดับ 2,700
ข้อควรระวัง:
- ติดตามข่าวเศรษฐกิจ เช่น ข่าวอัตราดอกเบี้ย หรือข้อมูลตัวเลขสำคัญที่จะมีผลต่อราคาทองคำ
- จัดการความเสี่ยงโดยไม่ควรเสี่ยงเกิน 1-2% ของพอร์ตต่อการเทรดหนึ่งครั้ง
#วิเคราะห์ทองคำ #ราคาทองคำ #Forex #เทรดทองคำ #การลงทุน #วางแผนเทรด #กราฟทองคำ #วิเคราะห์กราฟ #ครูเจี๊ยบ