วิเคราะห์ทางเทคนิคและพื้นฐานทองคำ
ข้อมูลทางพื้นฐาน (Fundamental Analysis):
1. ความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐฯ:
- ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเฉพาะคำมั่นสัญญาที่จะกำหนดภาษีศุลกากรกับสินค้านำเข้า ซึ่งอาจเพิ่มแรงกดดันต่อเงินเฟ้อ
- นักลงทุนหันมาใช้ทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงที่มีความกังวลนี้
2. ข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาด:
- ตัวเลขการจ้างงานเพิ่มขึ้น 256,000 ตำแหน่งในเดือนธันวาคม สูงกว่าคาดการณ์ที่ 160,000 ตำแหน่ง
- อัตราการว่างงานต่ำกว่าคาดการณ์ (4.1% เทียบกับ 4.2%) บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งในตลาดแรงงานสหรัฐฯ
- อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้สร้างความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจชะลอการลดอัตราดอกเบี้ย
3. ราคาทองคำฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว:
- หลังจากปรับตัวลงสู่ **2,663.09 ดอลลาร์ต่อออนซ์** ทองคำปรับตัวขึ้นและแตะระดับสูงสุดในรอบสัปดาห์ โดยเพิ่มขึ้นมากกว่า 1.7%
- เดวิด เมเกอร์ ระบุว่าความกังวลทางเศรษฐกิจและการเมืองยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำ
4. อัตราดอกเบี้ยและผลกระทบต่อทองคำ:
- การคาดการณ์ว่าเฟดอาจไม่ลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็ว อาจทำให้ทองคำมีแรงกดดัน เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
ข้อมูลทางเทคนิค (Technical Analysis):
1. แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend):
- กราฟยังคงเคลื่อนที่ในกรอบขาขึ้นที่ชัดเจน โดยราคาปัจจุบันเคลื่อนไหวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย EMA 50 ซึ่งสนับสนุนแนวโน้มเชิงบวก
2. แนวต้านสำคัญ:
- แนวต้านถัดไปที่ควรจับตาคือ **2,692 ดอลลาร์ต่อออนซ์** หากราคาสามารถทะลุระดับนี้ได้ อาจมีโอกาสขึ้นไปทดสอบกรอบบนของแนวโน้มขาขึ้น
3. แนวรับสำคัญ:
- ระดับแนวรับแรกอยู่ที่ **2,650 ดอลลาร์ต่อออนซ์** และแนวรับถัดไปคือ **2,646 ดอลลาร์ต่อออนซ์**
4. RSI (Relative Strength Index):
- RSI อยู่ใกล้โซน Overbought (ระดับ 68) ซึ่งบ่งชี้ว่าราคาอาจมีการพักฐานในระยะสั้น
แผนการเทรด:
1. กลยุทธ์ฝั่งซื้อ (Buy):
- หากราคาทองคำทะลุแนวต้าน 2,692 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมแรงซื้อที่แข็งแกร่ง สามารถเปิดคำสั่งซื้อ (Buy) โดยตั้งเป้าหมายที่กรอบแนวต้านถัดไป
- ใช้ระดับ 2,650 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นจุดตั้ง Stop Loss เพื่อจำกัดความเสี่ยง
2. กลยุทธ์ฝั่งขาย (Sell):
- หากราคาทองคำไม่สามารถทะลุระดับ **2,692 ดอลลาร์ต่อออนซ์** และมีสัญญาณกลับตัวลง อาจเปิดคำสั่งขาย (Sell) โดยมีเป้าหมายแนวรับที่ **2,650 ดอลลาร์ต่อออนซ์** หรือ **2,646 ดอลลาร์ต่อออนซ์**
- ตั้ง Stop Loss ที่ระดับ **2,692 ดอลลาร์ต่อออนซ์**
3. การบริหารความเสี่ยง:
- จัดการขนาด Lot อย่างเหมาะสม และอย่าลืมตั้ง Stop Loss ทุกครั้ง
- พิจารณาข้อมูลพื้นฐานร่วมกับข้อมูลทางเทคนิคในการวางกลยุทธ์
สรุป:
ราคาทองคำยังคงมีแรงหนุนจากปัจจัยความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจ แม้ว่าข้อมูลการจ้างงานในสหรัฐฯ จะออกมาดีเกินคาด แต่แรงซื้อจากนักลงทุนที่มองหาสินทรัพย์ปลอดภัยยังคงช่วยหนุนราคา หากราคาทะลุระดับสำคัญ อาจมีแนวโน้มไปต่อในกรอบขาขึ้น