ทองคำพุ่งสูงจากความไม่แน่นอนทางการเมืองและตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง

อ่าน 302


ฉบับย่อ

ราคาทองคำปรับตัวขึ้นจากความกังวลเกี่ยวกับนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้นักลงทุนหันมาใช้ทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แม้ว่าตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ จะออกมาแข็งแกร่งเกินคาด แต่ยังมีแรงหนุนจากความไม่แน่นอนและความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับอัตราดอกเบี้ยของเฟด


วิเคราะห์ทางเทคนิคและพื้นฐานทองคำ


ข้อมูลทางพื้นฐาน (Fundamental Analysis):

1. ความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐฯ:

   - ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเฉพาะคำมั่นสัญญาที่จะกำหนดภาษีศุลกากรกับสินค้านำเข้า ซึ่งอาจเพิ่มแรงกดดันต่อเงินเฟ้อ

   - นักลงทุนหันมาใช้ทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงที่มีความกังวลนี้

2. ข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาด:

   - ตัวเลขการจ้างงานเพิ่มขึ้น 256,000 ตำแหน่งในเดือนธันวาคม สูงกว่าคาดการณ์ที่ 160,000 ตำแหน่ง 

   - อัตราการว่างงานต่ำกว่าคาดการณ์ (4.1% เทียบกับ 4.2%) บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งในตลาดแรงงานสหรัฐฯ

   - อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้สร้างความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจชะลอการลดอัตราดอกเบี้ย

3. ราคาทองคำฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว:

   - หลังจากปรับตัวลงสู่ **2,663.09 ดอลลาร์ต่อออนซ์** ทองคำปรับตัวขึ้นและแตะระดับสูงสุดในรอบสัปดาห์ โดยเพิ่มขึ้นมากกว่า 1.7%

   - เดวิด เมเกอร์ ระบุว่าความกังวลทางเศรษฐกิจและการเมืองยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำ

4. อัตราดอกเบี้ยและผลกระทบต่อทองคำ:

   - การคาดการณ์ว่าเฟดอาจไม่ลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็ว อาจทำให้ทองคำมีแรงกดดัน เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย

ข้อมูลทางเทคนิค (Technical Analysis):

1. แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend):

   - กราฟยังคงเคลื่อนที่ในกรอบขาขึ้นที่ชัดเจน โดยราคาปัจจุบันเคลื่อนไหวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย EMA 50 ซึ่งสนับสนุนแนวโน้มเชิงบวก

2. แนวต้านสำคัญ:

   - แนวต้านถัดไปที่ควรจับตาคือ **2,692 ดอลลาร์ต่อออนซ์** หากราคาสามารถทะลุระดับนี้ได้ อาจมีโอกาสขึ้นไปทดสอบกรอบบนของแนวโน้มขาขึ้น

3. แนวรับสำคัญ:

   - ระดับแนวรับแรกอยู่ที่ **2,650 ดอลลาร์ต่อออนซ์** และแนวรับถัดไปคือ **2,646 ดอลลาร์ต่อออนซ์**

4. RSI (Relative Strength Index):

   - RSI อยู่ใกล้โซน Overbought (ระดับ 68) ซึ่งบ่งชี้ว่าราคาอาจมีการพักฐานในระยะสั้น

แผนการเทรด:


1. กลยุทธ์ฝั่งซื้อ (Buy):

   - หากราคาทองคำทะลุแนวต้าน 2,692 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมแรงซื้อที่แข็งแกร่ง สามารถเปิดคำสั่งซื้อ (Buy) โดยตั้งเป้าหมายที่กรอบแนวต้านถัดไป

   - ใช้ระดับ 2,650 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นจุดตั้ง Stop Loss เพื่อจำกัดความเสี่ยง

2. กลยุทธ์ฝั่งขาย (Sell):

   - หากราคาทองคำไม่สามารถทะลุระดับ **2,692 ดอลลาร์ต่อออนซ์** และมีสัญญาณกลับตัวลง อาจเปิดคำสั่งขาย (Sell) โดยมีเป้าหมายแนวรับที่ **2,650 ดอลลาร์ต่อออนซ์** หรือ **2,646 ดอลลาร์ต่อออนซ์**

   - ตั้ง Stop Loss ที่ระดับ **2,692 ดอลลาร์ต่อออนซ์**

3. การบริหารความเสี่ยง:

   - จัดการขนาด Lot อย่างเหมาะสม และอย่าลืมตั้ง Stop Loss ทุกครั้ง

   - พิจารณาข้อมูลพื้นฐานร่วมกับข้อมูลทางเทคนิคในการวางกลยุทธ์

สรุป:

ราคาทองคำยังคงมีแรงหนุนจากปัจจัยความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจ แม้ว่าข้อมูลการจ้างงานในสหรัฐฯ จะออกมาดีเกินคาด แต่แรงซื้อจากนักลงทุนที่มองหาสินทรัพย์ปลอดภัยยังคงช่วยหนุนราคา หากราคาทะลุระดับสำคัญ อาจมีแนวโน้มไปต่อในกรอบขาขึ้น

วางแผนเทรดกับครูเจี๊ยบ    ทองคำ    มือใหม่หัดเทรด    ราคาทองคำ   
อ้างอิง