การวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานสำหรับการเทรดทองคำ (XAU/USD)
ข้อมูลทางเทคนิค (Technical Analysis)
แนวต้านสำคัญ:
2,703.82: หากราคาสามารถทะลุระดับนี้ได้ จะมีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 2,726.51 และ 2,734.84
แนวรับสำคัญ:
2,675.34: แนวรับหลักที่ต้องจับตา หากราคาหลุดลงต่ำกว่านี้ อาจลงไปทดสอบ 2,656.36
EMA 50 (เส้นสีน้ำเงิน):
ราคายังเคลื่อนที่ต่ำกว่า EMA 50 แสดงถึงแรงขายยังคงครอบงำในระยะสั้น
RSI:
RSI ที่ระดับ 43.13 บ่งชี้โมเมนตัมขาลง แต่ยังไม่เข้าสู่ภาวะ Oversold ซึ่งอาจมีโอกาสเด้งกลับได้
ข้อมูลปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis)
แรงกดดันจากการเทขายทำกำไร:
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์ก (COMEX) ปิดร่วงลงกว่า 1.7% หลังจากทำจุดสูงสุดรอบ 5 สัปดาห์ นักลงทุนมีการเทขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงก่อนการประชุมเฟดในวันที่ 17-18 ธ.ค.
ความกังวลเกี่ยวกับการประชุมเฟด:
นักลงทุนจับตาการตัดสินใจเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดย FedWatch Tool ชี้ว่าโอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% อยู่ที่ 98%
ข้อมูลเงินเฟ้อ (PPI) สูงกว่าคาดการณ์:
ดัชนี PPI เดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 3.0% สูงสุดนับตั้งแต่ก.พ. 2566
Core PPI เพิ่มขึ้น 3.4% แสดงให้เห็นถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ยังสูง
ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงาน:
เพิ่มขึ้นเป็น 242,000 ราย สูงสุดในรอบ 2 เดือน บ่งชี้สัญญาณตลาดแรงงานอ่อนตัวลงเล็กน้อย
กลยุทธ์การเทรด
1. กลยุทธ์ฝั่ง Buy:
จังหวะเข้าซื้อ:
หากราคาทองคำทะลุแนวต้านที่ 2,703.82 ขึ้นไป
หรือราคาย่อตัวลงมาใกล้แนวรับ 2,675.34 และมีสัญญาณกลับตัวจาก RSI หรือแท่งเทียนกลับตัว
เป้าหมายทำกำไร:
ระดับ 2,726.51 หรือ 2,734.84
Stop Loss:
ต่ำกว่า 2,675.34 หรือ 2,656.36
2. กลยุทธ์ฝั่ง Sell:
จังหวะเข้า Short:
หากราคาหลุดแนวรับที่ 2,675.34
เป้าหมายทำกำไร:
ระดับ 2,656.36 หรือโซน 2,640.00
Stop Loss:
เหนือระดับ 2,703.82
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
1.แถลงการณ์หลังการประชุมเฟด (17-18 ธ.ค.): เพื่อจับสัญญาณการผ่อนคลายนโยบายการเงิน
2.ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ: โดยเฉพาะข้อมูลเงินเฟ้อและการจ้างงาน
3.ทิศทางของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD): การแข็งค่าของดอลลาร์จะกดดันราคาทองคำ
การผสมผสานระหว่างปัจจัยพื้นฐานและการวิเคราะห์ทางเทคนิคจะช่วยให้สามารถวางแผนการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น! ????