บทวิเคราะห์ภาพรวม: การผสมผสานข้อมูลพื้นฐาน (Fundamental) และทางเทคนิค (Technical)
ข้อมูลพื้นฐาน (Fundamental Analysis)
1. ปัจจัยความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์:
- นักลงทุนยังคงเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) หลังเกิดความกังวลว่าสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนจะทวีความรุนแรงและบานปลาย
- การที่วลาดิเมียร์ ปูติน ลงนามในกฤษฎีกาปรับหลักเกณฑ์การใช้อาวุธนิวเคลียร์ ทำให้สถานการณ์ทางการเมืองตึงเครียดมากขึ้น
2. การสนับสนุนจากสหรัฐฯ ต่อยูเครน:
- สหรัฐฯ อนุมัติให้ยูเครนใช้ระบบขีปนาวุธ ATACMS ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าอาจเกิดการเผชิญหน้าทางการทหารในระดับสูงขึ้น
3. ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด:
- นักลงทุนให้น้ำหนัก 63% ต่อการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนธันวาคม ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่หนุนราคาทองคำในระยะยาว เนื่องจากดอกเบี้ยต่ำมักทำให้ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจมากขึ้นเมื่อเทียบกับพันธบัตร
ข้อมูลทางเทคนิค (Technical Analysis)
1. แนวโน้มและแนวรับ-แนวต้าน:
- ราคาทองคำยังอยู่ในกรอบขาขึ้น (Ascending Channel) โดยแนวต้านระยะสั้นอยู่ที่บริเวณ 2,643 - 2,650 ดอลลาร์/ออนซ์
- แนวรับสำคัญอยู่ที่บริเวณ 2,616 - 2,612 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นจุดที่นักเทรดสามารถรอเข้าสถานะซื้อ (Buy Entry)
2. ตัวชี้วัด (Indicators):
- RSI ใกล้เข้าสู่โซน Overbought (ระดับ 67.93) ซึ่งอาจส่งสัญญาณว่าราคามีโอกาสปรับฐานก่อนที่จะขึ้นต่อ
- ราคายังอยู่เหนือเส้น EMA บ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้นยังคงอยู่
3. รูปแบบกราฟ (Chart Pattern):
- ราคากำลังเคลื่อนไหวในลักษณะของกรอบ Channel โดยยังไม่มีสัญญาณการ Break Out หรือ Break Down ที่ชัดเจน
แผนการเทรดที่ผสมผสานข้อมูลพื้นฐานและเทคนิค
1. กลยุทธ์เข้าซื้อ (Buy Strategy):
- หากราคาปรับฐานลงมาที่โซน 2,616 - 2,612 ให้พิจารณาเข้าสถานะซื้อ โดยใช้ปัจจัยพื้นฐานจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์เป็นตัวสนับสนุนว่าความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจะยังคงมีอยู่
- ตั้ง Stop Loss ใต้ระดับ 2,612 ดอลลาร์ เพื่อป้องกันความเสี่ยง
2. กลยุทธ์ขาย (Sell Strategy):
- หากราคาขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 2,643 - 2,650 โดยไม่มีการทะลุแนวต้านและเกิดสัญญาณกลับตัวทางเทคนิค เช่น Bearish Engulfing หรือ Divergence บน RSI
- สามารถพิจารณาขายเพื่อล็อกกำไรในระยะสั้น
3. เป้าหมายการทำกำไร (Take Profit):
- หากซื้อที่แนวรับ เป้าหมายแรกอยู่ที่บริเวณ 2,643 - 2,650 และเป้าหมายถัดไปในกรณี Break Out คือ 2,667 ดอลลาร์
ข้อควรระวัง
- หากสถานการณ์สงครามยกระดับความรุนแรงขึ้น อาจส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงในระยะสั้น แต่ควรระวังความผันผวนที่สูงขึ้น
- การปรับตัวของเฟดเกี่ยวกับนโยบายดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้อาจสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ
บทสรุป
ในขณะที่ตลาดยังคงได้รับแรงหนุนจากปัจจัยพื้นฐานด้านความขัดแย้งทางการเมืองและความไม่แน่นอนของอัตราดอกเบี้ย การใช้ข้อมูลทางเทคนิคเพื่อวางแผนการเทรดจะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากความผันผวนของตลาดในปัจจุบัน