การวิเคราะห์ทางเทคนิคและสถานการณ์ปัจจุบันของราคาทองคำ:

- ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยในช่วงการซื้อขายเช้าในเอเชีย โดยเป็นการฟื้นตัวทางเทคนิค (Technical Recovery)

- ราคาทองคำปิดการซื้อขายในวันศุกร์ที่ผ่านมาด้วยการลดลงรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่การล็อกดาวน์ช่วงโควิดในเดือนมีนาคม 2020

- Jerome Powell ประธาน Fed เน้นย้ำว่าขณะนี้ยังไม่มีความเร่งรีบที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยชี้ให้เห็นถึง "ความแข็งแกร่งที่โดดเด่น" ของเศรษฐกิจสหรัฐ

- การเปลี่ยนแปลงในความคาดหวังเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed และความแข็งแกร่งของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้สร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ

ข้อมูลเพิ่มเติมจาก Quasar Elizundia นักกลยุทธ์จาก Pepperstone ระบุว่า:

- ทองคำ Spot ล่าสุดปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.4% อยู่ที่ $2,572.17/ออนซ์

การวิเคราะห์ทางเทคนิคจากกราฟ:

1. โครงสร้างตลาด (Market Structure):

   - กราฟแสดงรูปแบบการเคลื่อนที่ในช่องแนวโน้มขาขึ้น (Ascending Channel) โดยมีแนวรับและแนวต้านชัดเจนจากเส้นขอบล่างและบนของช่องดังกล่าว

   - มีแรงซื้อเด่นชัดที่ดันราคาขึ้นจากแนวรับของช่อง

2. แนวรับและแนวต้านสำคัญ:

   - แนวต้านที่สำคัญ:

     - บริเวณ 2,616.66

   - แนวรับที่สำคัญ:

     - บริเวณ 2,592.32 และ 2,576.28

   - เส้น EMA 50 (2,574.91) ทำหน้าที่เป็นแนวรับที่เสริมความแข็งแกร่ง

3. RSI (Relative Strength Index):

   - RSI อยู่บริเวณประมาณ 68 ซึ่งใกล้โซน Overbought บ่งชี้ว่าอาจเกิดแรงขายในระยะสั้น

4. รูปแบบกราฟ:

   - มีการพุ่งขึ้นของราคาและเริ่มมีการพักตัวในกรอบแคบ ซึ่งอาจเป็นการสะสมแรงก่อนเลือกทิศทางในอนาคต

แผนการเทรด:

1. กรณีรอ Buy (ตามแนวโน้มหลัก):

   - รอราคาย่อตัวมาบริเวณแนวรับที่ 2,592.32 หรือใกล้เส้น EMA 50 (2,574.91) เพื่อหาจังหวะเข้าออเดอร์ Buy

   - ตั้งเป้ากำไรที่แนวต้าน 2,616.66

2. กรณี Sell (ระยะสั้น):

   - หากราคาทะลุแนวรับที่ 2,576.28 ลงมา อาจเปิดออเดอร์ Sell โดยมีเป้าหมายที่แนวรับถัดไปที่บริเวณ 2,560

3. การตั้ง Stop Loss:

   - ตั้ง Stop Loss ไว้ต่ำกว่าหรือสูงกว่าแนวรับ-แนวต้านสำคัญ เพื่อป้องกันความเสี่ยง

4. การยืนยันจาก RSI และ Price Action:

   - หาก RSI ยังคงอยู่ในโซน Overbought ให้ระวังการกลับตัว

   - ใช้รูปแบบแท่งเทียนบริเวณแนวรับ-แนวต้าน เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการเปิดออเดอร์

สรุป:

ราคาทองคำกำลังฟื้นตัวจากแรงกดดันที่เกิดจากความคาดหวังเรื่องการลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed และค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งแกร่ง ขณะที่แนวโน้มระยะสั้นยังคงได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวทางเทคนิค การยืนยันแนวโน้มจะชัดเจนยิ่งขึ้นหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับที่สำคัญได้