ข้อมูลพื้นฐาน (Fundamental Analysis)
1. การคาดการณ์ลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด:
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ในการประชุม FOMC วันที่ 6-7 พฤศจิกายน 2567 ลงมาอยู่ที่ระดับ 4.50-4.75% เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อปรับลดลงสู่ระดับ 2.1% ใกล้เคียงเป้าหมาย 2.0% ของเฟด
- หากผลการประชุม FOMC ตรงตามคาด อาจส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงเล็กน้อย ซึ่งจะส่งผลบวกต่อราคาทองคำในระยะสั้น
2. แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอลง:
- เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มเข้าสู่การชะลอตัวแบบ "Soft Landing" โดยไม่มีความจำเป็นต้องลดอัตราดอกเบี้ยมากถึง 0.50% ดังนั้นแรงขายในดอลลาร์อาจไม่รุนแรง
- อัตราการว่างงานและยอดค้าปลีกที่ยังคงขยายตัวอยู่ ทำให้เฟดอาจคงการลดดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยอาจปรับลดอีก 0.25% ในเดือนธันวาคม 2567
3. ความไม่แน่นอนทางการเมือง:
- ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 อาจส่งผลกระทบต่อนโยบายการเงินในระยะยาว หากมีการเปลี่ยนแปลงฝ่ายบริหาร ซึ่งอาจก่อให้เกิดความผันผวนในตลาดทองคำ
- หากผลการเลือกตั้งมีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย เช่น การปรับภาษีสินค้านำเข้าหรือมาตรการกีดกันแรงงาน อาจส่งผลให้เฟดไม่สามารถลดดอกเบี้ยต่อเนื่องได้ในปี 2568 ซึ่งอาจทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและกดดันราคาทองคำในระยะยาว
การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis)
จากกราฟทางเทคนิคที่แสดง:
1. แนวต้านและแนวรับสำคัญ:
- ระดับแนวต้านอยู่ที่ Fibonacci 0.786 (2,742.26) และ 0.618 (2,752.31) ซึ่งเป็นจุดที่น่าสนใจในการพิจารณาเข้าออเดอร์ขาย (Sell) หากราคาขึ้นไปทดสอบแล้วไม่สามารถทะลุขึ้นไปได้
- แนวรับสำคัญอยู่ที่ 2,729.44 และ 2,711.05 หากราคาปรับตัวลงมาถึงระดับนี้และไม่มีแรงขายต่อ อาจเป็นจุดที่เหมาะสมสำหรับการเข้าออเดอร์ซื้อ (Buy)
2. รูปแบบการเคลื่อนที่ของราคา:
- ราคาทองคำมีแนวโน้มสร้างรูปแบบการกลับตัวลง โดยมีเส้นเทรนด์ไลน์จากกราฟที่สามารถใช้เป็นตัวบ่งชี้ว่าราคายังอยู่ในขาลงในระยะสั้น
3. ตัวบ่งชี้ RSI:
- RSI อยู่ในระดับต่ำที่ประมาณ 43 หากราคามีแรงขายมากขึ้นอาจดัน RSI ลงต่ำกว่านี้ ซึ่งสามารถใช้เป็นสัญญาณการขายเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม หาก RSI ปรับตัวขึ้นและทะลุระดับ 50 ได้ ก็อาจเป็นสัญญาณบวกต่อราคาทองคำ
แผนการเทรด (Trade Plan)
1. การเข้าออเดอร์ขาย (Sell):
- หากราคาขึ้นไปทดสอบระดับแนวต้าน 2,742.26 หรือ 2,752.31 แล้วไม่สามารถทะลุผ่าน อาจพิจารณาเข้าออเดอร์ขาย เนื่องจากตลาดได้สะท้อนการคาดการณ์การลดดอกเบี้ยของเฟดไว้แล้ว
- ตั้งเป้าทำกำไรที่แนวรับ 2,729.44 หรือ 2,711.05 และพิจารณาปิดออเดอร์หากมีสัญญาณกลับตัวขึ้น
2. การเข้าออเดอร์ซื้อ (Buy):
- หากราคาลงมาถึงแนวรับ 2,711.05 หรือบริเวณแนวรับ 2,692.44 ที่ระดับ Fibonacci 1.618 และมีแรงซื้อเข้ามาชัดเจน อาจพิจารณาเข้าออเดอร์ซื้อในจุดนี้ โดยคาดหวังการรีบาวด์จากแรงซื้อหากเฟดลดดอกเบี้ยตามที่คาด
- ตั้งเป้าทำกำไรในกรอบระยะสั้นหรือระยะกลางขึ้นอยู่กับสัญญาณจาก RSI และความแข็งแกร่งของแรงซื้อ
3. จัดการความเสี่ยง:
- ใช้แนวรับและแนวต้านเป็นจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) เพื่อจัดการความเสี่ยงและป้องกันการสูญเสียที่เกินกว่าคาด
ข้อสรุป
การวางแผนเทรดนี้เป็นการผสมผสานข้อมูลพื้นฐานที่ส่งผลต่อทิศทางของตลาดและการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ให้จุดเข้า-ออกที่ชัดเจน โดยใช้การประชุม FOMC วันที่ 6-7 พ.ย. เป็นปัจจัยสำคัญในระยะสั้น ทั้งนี้ความไม่แน่นอนจากการเลือกตั้งสหรัฐฯ ก็อาจเพิ่มความผันผวนให้กับราคาทองคำในอนาคต
#เฟด #ปรับลดดอกเบี้ย #เศรษฐกิจสหรัฐ #ประชุมFOMC #นโยบายการเงิน #ราคาทองคำ #การลงทุน #แนวโน้มเศรษฐกิจ #วิเคราะห์ตลาด #การเงิน #เงินเฟ้อ #เศรษฐกิจโลก #กลยุทธ์การลงทุน #การวิเคราะห์