วิเคราะห์มุมมองทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานทองคำ
จากข้อมูลทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐาน มีการปรับใช้ข้อมูลเพื่อกำหนดกลยุทธ์การเทรดดังนี้:
---
ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis)
1. แรงขายทำกำไร: นักลงทุนขายทำกำไรหลังราคาทองคำขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ โดยราคาทองคำในตลาด COMEX (ส่งมอบเดือนธ.ค.) ปรับตัวลดลง 51.50 ดอลลาร์ หรือ 1.84% มาปิดที่ 2,749.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งแสดงถึงการตอบสนองต่อแรงขายทำกำไร แต่แนวโน้มยังแข็งแกร่งเพราะความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งสหรัฐฯ
2. สินทรัพย์ปลอดภัย: ราคาทองคำยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากสถานะของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งและสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง ซึ่งคาดว่าจะเป็นปัจจัยที่ผลักดันแรงซื้อทองคำต่อไป
3. การเลือกตั้งสหรัฐฯ: โพลหลายสำนักบ่งชี้ว่าผู้สมัครจากทั้งสองพรรค (คามาลา แฮร์ริส และโดนัลด์ ทรัมป์) มีคะแนนนิยมที่สูสีกัน สถานการณ์นี้สร้างความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ทำให้นักลงทุนเลือกถือครองทองคำมากขึ้น
4. การคาดการณ์นโยบายทรัมป์: มาตรการของทรัมป์ที่มุ่งลดอัตราภาษีและผ่อนคลายกฎระเบียบในภาคการเงิน อาจส่งผลให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะกดดันให้เฟดชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
5. ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร: ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค. คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 111,000 ตำแหน่งจากเดือนก่อนหน้า สะท้อนถึงความอ่อนแอในตลาดแรงงาน อาจกดดันดอลลาร์และสนับสนุนราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
---
มุมมองทางเทคนิค (Technical Analysis)
1. แนวโน้มในกรอบขาขึ้น: ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบขาขึ้นที่ชัดเจน โดยมีเส้นแนวรับและแนวต้านของช่องขาขึ้นเป็นจุดสำคัญ หากราคาไม่หลุดแนวรับที่กรอบล่าง อาจจะเป็นโอกาสเข้าซื้อ (Buy) โดยเป้าหมายทำกำไรอยู่ที่กรอบบนของช่องนี้
2. EMA 50: ราคาเคลื่อนไหวต่ำกว่าเส้น EMA 50 ซึ่งอาจบ่งบอกถึงการพักตัวชั่วคราว หากราคายืนเหนือเส้น EMA 50 ได้ อาจแสดงถึงการกลับมาในทิศทางขาขึ้นอีกครั้ง ซึ่งต้องจับตาสัญญาณการกลับตัวให้ชัดเจนก่อนเข้าซื้อ
3. ระดับแนวต้านที่ 2,757.85: มีแนวต้านอยู่ที่ระดับ 2,757.85 หากราคาสามารถทะลุผ่านระดับนี้ได้ อาจบ่งชี้ถึงโมเมนตัมขาขึ้นที่แข็งแกร่ง โดยมีเป้าหมายถัดไปที่กรอบบนของช่องขาขึ้น
4. RSI: RSI ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 37.89 และเริ่มดีดขึ้นจากโซน Oversold หากสามารถทะลุระดับ 50 ได้ อาจยืนยันสัญญาณการกลับตัวขาขึ้น
กลยุทธ์การเทรด
- กลยุทธ์การเข้าซื้อ (Buy):
- หากราคายังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบขาขึ้นและไม่หลุดแนวรับ อาจเข้าซื้อเมื่อราคาดีดตัวจากแนวรับ
- ตั้งเป้าหมายทำกำไรที่กรอบบนของช่องขาขึ้น และพิจารณาเส้น EMA 50 เป็นแนวอ้างอิงหากราคายืนเหนือเส้นนี้ได้
- วางจุดหยุดขาดทุน (Stop-Loss) ที่แนวรับของช่องขาขึ้นเพื่อจำกัดความเสี่ยง
-กลยุทธ์การเข้าขาย (Sell):
- หากราคายังคงต่ำกว่าเส้น EMA 50 และมีแรงขายทำกำไรอย่างต่อเนื่อง ควรพิจารณาแนวต้านที่ 2,757.85 เป็นจุดเข้าขาย
- วางจุดหยุดขาดทุนเหนือแนวต้าน เพื่อป้องกันความเสี่ยงหากราคาเกิดการกลับตัวขึ้นไป
การวิเคราะห์นี้สามารถใช้ได้กับการเทรดในระยะสั้น แต่ต้องคำนึงถึงปัจจัยพื้นฐานในระยะยาวที่ยังสนับสนุนราคาทองคำ
#ทองคำ #การลงทุน #บทวิเคราะห์ตลาด #การเลือกตั้งสหรัฐ #สินทรัพย์ปลอดภัย #ทองคำแท่ง #การเทรด
ข่าวที่ส่งผลต่อราคาทองคำประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567