การวิเคราะห์ทางเทคนิคอล
จากกราฟทางเทคนิค ราคาทองคำยังคงวิ่งอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น โดยมีแนวรับที่สำคัญบริเวณ 2,757.54 และ 2,745.12 ซึ่งเป็นจุดที่น่าจับตามองหากราคาย่อตัวลงมา และแนวต้านสำคัญที่ระดับ 2,782.19 ซึ่งเป็นจุดที่ราคาทองคำกำลังทดสอบอยู่ในขณะนี้ นอกจากนี้ EMA 50 ยังสนับสนุนทิศทางขาขึ้นของราคา เนื่องจากราคายังเคลื่อนไหวเหนือเส้นนี้
การวิเคราะห์ทาง Fundamental
1. สถานะ Safe-Haven ของทองคำ: ปัจจัยพื้นฐานยังคงหนุนให้เกิดแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางและความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐฯ โดยเฉพาะผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 5 พ.ย. โดยคะแนนนิยมระหว่างผู้สมัครจากทั้งสองพรรคสูสีกันอย่างมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดความผันผวนในตลาด
2. คาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด: การคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมเดือนพ.ย. หนุนราคาทองคำอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการลดอัตราดอกเบี้ยทำให้ต้นทุนการถือครองทองคำลดลง ซึ่งทำให้ทองคำมีความน่าสนใจมากขึ้นในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่มีดอกเบี้ย
3. ข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าจับตา: นักลงทุนติดตามข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ เช่น ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์ ซึ่งคาดการณ์ว่าตัวเลขการจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 111,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งต่ำกว่าเดือนก่อนหน้า เนื่องจากปัจจัยเช่นพายุและการผละงานประท้วง อาจเป็นสัญญาณให้เห็นถึงสภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ซึ่งจะส่งผลให้เฟดมีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น
สรุปและแผนการเทรด
จากข้อมูลทางเทคนิคและพื้นฐาน สรุปได้ว่าราคาทองคำมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น และหากราคาย่อตัวลงมาที่บริเวณแนวรับ 2,757.54 หรือต่ำกว่านี้ ถือว่าเป็นจุดที่เหมาะสมในการเข้าซื้อเพื่อลงทุนในระยะสั้น โดยมีเป้าหมายการทำกำไรที่แนวต้านบริเวณ 2,782.19 หรือสูงกว่านั้นหากราคาทะลุผ่านแนวต้านนี้ไปได้
ทั้งนี้ ควรติดตามการประชุมของเฟดในเดือนพ.ย. และผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด เพราะจะส่งผลให้ราคาทองคำมีความผันผวนสูง
#ทองคำ #ลงทุน #สินทรัพย์ปลอดภัย
ข่าวที่ส่งผลต่อราคาทองคำประจำวันที่ 30 ตุลาคม 2567