วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและเทคนิคอลของราคาทองคำ

จากข้อมูลปัจจัยพื้นฐานที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ (11 ต.ค.) สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 1% โดยปิดบวกที่ระดับ 2,676.30 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐที่สนับสนุนการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า ซึ่งส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง สิ่งนี้สร้างแรงหนุนให้กับความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย โดยเฉพาะในช่วงความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง

จากข้อมูลทางเทคนิคที่วิเคราะห์ข้างต้น ราคาทองคำอยู่ในช่วงที่กำลังพยายามเบรกแนวต้านสำคัญที่ 2,661.85 USD หากราคาสามารถทะลุผ่านแนวต้านนี้ไปได้ เราจะเห็นการเคลื่อนไหวขาขึ้นต่อเนื่องไปที่แนวต้านถัดไปที่ 2,680 USD ซึ่งเป็นแนวต้านทางจิตวิทยา

ปัจจัยพื้นฐานที่สนับสนุนแนวโน้มขาขึ้น:

1. การคาดการณ์ลดอัตราดอกเบี้ย: การที่เฟดมีแนวโน้มจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยถึง 0.25% อีกสองครั้งในปีนี้ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงและทำให้ทองคำมีความน่าสนใจมากขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น เนื่องจากราคาทองคำถูกลงเมื่อดอลลาร์อ่อนค่า

2. ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์: ความตึงเครียดในตะวันออกกลางยังกระตุ้นความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งเพิ่มแรงซื้อและส่งเสริมแนวโน้มขาขึ้นของราคาในตลาดโลก

3. เงินเฟ้อที่น่าพอใจ: ข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ไม่เปลี่ยนแปลงในเดือนกันยายน ช่วยลดความกังวลเรื่องเงินเฟ้อในระยะสั้น แต่ยังคงส่งสัญญาณว่าเฟดสามารถดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อราคาทองคำ

ปัจจัยทางเทคนิคอล:

- EMA 50: ราคายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (EMA 50) ซึ่งบ่งบอกถึงแรงซื้อที่ยังมีอยู่และมีแนวโน้มที่ราคาจะปรับตัวขึ้นต่อ

- แนวต้านสำคัญที่ 2,661.85 USD: หากราคาสามารถยืนเหนือแนวนี้ได้จะเป็นการยืนยันถึงการเคลื่อนไหวขาขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 2,680 USD และอาจไปถึงระดับ 2,700 USD หากแรงซื้อเพิ่มขึ้น

สรุปแผนการเทรด:

- สถานะ Buy: หากราคาทะลุแนวต้านที่ 2,661.85 USD และยืนเหนือได้ ควรพิจารณาเปิดสถานะ Buy โดยตั้งจุดทำกำไรที่ประมาณ 2,680 USD และวาง Stop-loss ไว้ที่บริเวณแนวรับ 2,636.33 USD เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการกลับตัวของราคา

- สถานะ Sell: ในกรณีที่ราคาหลุดแนวรับที่ 2,636.33 USD ควรพิจารณาเข้าสถานะ Sell โดยวางจุดตัดขาดทุนที่แนวต้านสำคัญเพื่อจัดการความเสี่ยง

ทั้งนี้ควรติดตามข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติม เช่น การประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในสัปดาห์ถัดไป เพื่อประเมินผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ

เทรดทั้งที ต้องได้รีเบทคืน สนใจอ่านข้อมมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://krujeabforex.com/rebate

#ทองคำ #ราคาทองคำ #วิเคราะห์กราฟ #เทรดทองคำ #ลงทุน #เฟด #เงินเฟ้อ #โอกาสการลงทุน